Comment System

blogger-disqus-facebook

วันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2561

ดอกไม้อันตราย 10 อันดับ


ดอกไม้นั้นมีความสวยงามอยู่ในตัว ด้วยความที่มีสีสันมากมายบางชนิดยังมีกลิ่นหอมอีกด้วย แต่ดอกไม้บางชนิดก็ยังมีอันตรายที่แอบแฝงไว้ภายใต้ความสวยงามภายนอก ดอกไม้เหล่านี้มีอะไรบ้าง วันนี้เออร์เบินการ์เด้นจะไปชมกันครับ

10.ดอกบลีดดิ้งฮาร์ท
หรือในอีกชื่อหนึ่งคือ ดอกหทัยหยาดทิพย์ ที่ได้ชื่อว่า บลีดดิ้งฮาร์ทก็เพราะ มีดอกรูปหัวใจสีชมพู และมีส่วนยื่นออกมาเหมือนเลือดที่หยดลงมา จึงถูกเปรียบว่าเหมือนหัวใจที่มีเลือดไหลออกมา พืชชนิดนี้มีเกิดอยู่ในหลายพื้นที่ในโลก และปัจจุบันยังไม้ประดับที่นิยมมากชนิดหนึ่ง แต่ต้องระวังครับ เพราะพืชชนิดนี้มีพิษสร้างความระคายเคืองที่ผิวหนังได้ครับ



9.ดอกกุหลาบพันปี
ในเกสรของดอกกุหลาบพันปีมี andromedotoxin,grayanotoxin และ rhodotoxin ที่เมื่อได้รับเข้าไปในร่างกายแล้วจะทำให้เกิดอาการแพ้อย่างรุนแรงได้


Photo credit:commons.wikimedia.org

8.เยลโล่ จัสมิน
ทุกส่วนของพืชชนิดนี้มีพิษที่ก่อให้เกิดความระคายเคืองที่ผิวหนัง โดยเฉพาะในผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย เกสรของดอกไม้ชนิดนี้มีพิษควรหลีกเลี่ยงการปลูกในบริเวณบ้านที่มีเด็กเล็ก


Photo credit:gardenoftomorrow.com

7.ดอกฟ็อกซ์โกลฟ
ดอกดิจิทาลิสหรือดอกฟ็อกซ์โกลฟ จัดเป็นหนึ่งในกลุ่มไม้ตัดดอกที่สวยงาม แต่ดอกไม้ชนิดนี้ยังมีอันตรายซ่อนอยู่ ถ้าหากมีใครเผลอรับประทานดอกไม้นี้เข้าไปจะทำให้เกิดอาการ เพ้อ คลื่นไส้ อาเจียน หายใจหอบได้


Photo credit:reesephoto.me

6.ไฮเดรนเยีย
ดอกไฮเดรนเยียแม้จะมีความสวยงาม แต่ดอกไ้ชนิดนี้ไม่ควรปลูกไว้ภายในตัวบ้าน ถ้าบ้านเรามีสุนัขหรือแมว ในกรณีที่สุนัขหรือแมวของเราเข้าไปกัดหรือเล็มดอกไม้นี้เข้า เพราะในต้นไฮเดรนเยียนี้มีสาร cyanide อยู่เล็กน้อย ถึงจะไม่มีผลกับมนุษย์มากนัก แต่ก็อาจทำให้สัตว์เลี้ยงท้องร่วงหรือถึงตายได้


Photo credit:www.gardeningknowhow.com

5.ลิลลี่ ออฟ เดอะ แวลลี่ย์
ดอกลิลลี่ ออฟ เดอะ แวลลี่ย์ เป็นไม้ตัดดอกที่ได้รับความนิยมมากชนิดหนึ่ง แต่ดอกไม้ชนิดนี้เป็นพิษอย่างรุนแรงเมื่อได้รับเข้าสู่ร่างกาย แต่ถึงอย่างนั้นก็ตามก็มักพบดอกไม้นี้ในช่อดอกไม้เจ้าสาวอยู่เสมอ


Photo credit:commons.wikimedia.org

4.ดอกแองเจล ทรัมเป็ท
เรียกอีกชื่อว่า ดอกแตรนางฟ้า เป็นพืชพื้นเมืองในแถบอเมริกาใต้ และขยายไปถึงแถบอเมริกาเหนือ พืชชนิดนี้มีสาร tropane alkaloids scopolamine และ atropine หากได้รับเข้าไปในร่างกายในปริมาณมาก อาจทำให้เสียชีวิตได้


Photo credit:genius.com

3.ดอกวูฟเบน
ดอกไม้ชนิดนี้มีความสวยเพียงภายนอกเท่านั้น เพราะดอกวูฟเบนพิษร้ายแรงทำให้ทั้งมนุษย์และสัตว์เสียชีวิตได้ ในสมัยโบราณมีการใช้พืชชนิดนี้มาทำยาพิษที่ใช้ในการล่าสัตว์


Photo credit:teenwolf.wikia.com

2.ดอกเดดลี่ ไนท์เฉด
ผลของต้นเดดลี่ ไนท์เฉดนี้เรียกอีกชื่อว่า เดวิลเบอร์รี่ ซึ่งพืชชนิดนี้มีความน่ากลัวสมชื่อ โดยมีสาร Tropane alkaloids ไม่ว่าส่วนหนึ่งส่วนใดของต้นเดดลี่ ไนท์เฉด โดยเฉพาะใบ เมื่อกินเข้าไปทำให้การ เพ้อ ประสาทหลอน มีอาการชัก และหายใจติดขัด โดยเฉพาะผลของเดดลี่ ไนท์เฉด นั้นมีรสหวาน และสีสวยงาม ต้องระวังเป็นอย่างมากหากมีเด็กๆหรือผู้ที่ไม่รู้รับประทานเข้าไป


Photo credit:creationwiki.org

1.ดอกฝิ่น
ดอกฝิ่นนั้นมียางที่มีฤทธิ์เป็นสารเสพย์ติด และเป็นพืชต้องห้ามในการปลูก ส่วนใหญ่จะพบตามแปลงทดลอง หรือสถานที่เฉพาะเท่านั้น


Photo credit:www.herbalfire.com

ที่มา
www.thepoisongarden.co.uk
health-conditions.knoji.com
twentytwowords.com

Share:

วันพุธที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2561

แมวแต่ละสายพันธ์ ต่างกันยังไง?!?

Share:

วันอังคารที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2561

คู่ฆาตกรโหดวิปริต!!!!



 เฟร็ด เวสต์ (เกิดวันที่ 29 กันยายน 1941) เป็นชาวอังกฤษที่มีความผิดอาญากรรมตั้งแต่สมัยเป็นวัยรุ่น เขาย้ายจากบ้านพ่อแม่ในชนบท มาอาศัยอยู่ในเมือง ในปี ค.ศ. 1965 เขาบังเอิญถอยรถไอศกรีมแล่นทับเด็กน้อยคนหนึ่งเสียชีวิต ทำให้เขาต้องหนีไปอยู่ที่อื่น
 และกลายเป็นฆาตกรต่อเนื่องในเวลาต่อมา
 แต่ต่อมาก็ได้ร่วมมือกับภรรยาโรสแมรี่ หรือโรส เป็นผู้หญิงที่เกิดมาพร้อมอาการผิดปกติทางจิต ถูกพ่อแท้ๆ ข่มขืนตั้งแต่เด็กจนกลายเป็นคนชอบซาดิสต์และมีอารมณ์ทางเพศสูง ทั้งคู่ก่อคดีทรมาน ข่มขืน และฆ่าผู้หญิงอย่างน้อย 11 คน ระหว่างปี ค.ศ. 1973 และปี ค.ศ. 1979 ถือว่าทั้งคู่ลอยนวลยาวนานมากสำหรับการก่อคดีฆาตกรรมต่อเนื่องตกใจคือหนึ่งในเหยื่อผู้หญิงเหล่านั้นมีฮัทเธอร์ (Heather) ลูกสาวคนโตวัย 16 ปีของทั้งคู่รวมอยู่ด้วย และที่น่าตกใจไปกว่านั้น !! ศพส่วนใหญ่ที่ถูกฆาตกรรม จะถูกซุกซ่อนในบ้านเลขที่ 25 บนถนนครอมเวลล์ (Cromwell Street) เมืองกลูเซสเตอร์ (Gloucester) ที่พวกเขาอาศัยอยู่นั่นเอง
จนกระทั่งปี 1994 เรื่องราวทั้งหมดก็ถูกเปิดเผยเมื่อตำรวจออกหมายค้นบ้านเพื่อหาศพฮัทเธอร์ที่เชื่อว่าถูกฝังในสวนหลังบ้าน ทำให้ทั้งคู่ถูกจับกุมในที่สุด เฟร็ดชิงผูกคอตายในห้องขังก่อนจะถูกนำตัวขึ้นศาล ส่วนโรสถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตและไม่มีการลดหย่อนผ่อนโทษใดๆ ทั้งสิ้น

ที่มา :https://board.postjung.com

Share:

วันจันทร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2561

Black mamba นักล่าที่อันตรายที่สุด


งูแบล็กแมมบา (อังกฤษ: Black mamba, Common black mamba, Black-mouthed mamba_พิษร้ายแรงมากชนิดหนึ่ง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Dendro
aspis polylepis อยู่ในวงศ์งูพิษเขี้ยวหน้า (Elapidae) พบกระจายพันธุ์ในทวีปแอฟริกา ในแถบตอนใต้และตอนกลาง งูแบล็กแมมบา มีรูปร่างเพรียวยาว มีลำตัวสีน้ำตาลเทา ท้องมีสีเทาขาวจนไปถึงสีเหลืองหรือเขียว เส้นขอบปากมีสีน้ำตาลดำ คอแบน ภายในปากสีดำสนิท มีต่อมพิษขนาดใหญ่ ตากลมโตขนาดใหญ่ มีความยาวโดยเฉลี่ยประมาณ 2 เมตร แต่มีขนาดยาวเต็มที่เกือบ 4 เมตร งูแบล็กแมมบาเป็นงูที่มักไม่ขึ้นต้นไม้ แต่จะหากินและอาศัยบนพื้นเป็นหลัก เป็นงูที่เลื้อยคลานได้ไวมาก โดยสามารถเลื้อยได้ไวถึง 20 กิโลเมตร/ชั่วโมง จึงถูกจัดให้เป็นงูที่ไวที่สุดในโลก นอกจากนี้แล้ว งูแบล็กแมมบายังได้ถูกจัดให้เป็นงูที่อันตรายและเป็นงูพิษที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในทวีปแอฟริกา ด้วยความเป็นงูที่หากินบนพื้นเป็นหลัก คล่องแคล่วว่องไว อีกทั้งยังเป็นงูที่ไม่กลัวมนุษย์ มีอุปนิสัยดุร้ายก้าวร้าว เมื่อปะทะกับมนุษย์ซึ่ง ๆ หน้า จะไม่หลบหนีเหมือนงูชนิดอื่น ๆ โดยคำว่า "แมมบา" นั้น หมายถึง "โลงศพ" เนื่องจากมีส่วนหัวแลดูคล้ายโลงศพของชาวตะวันตก ซึ่งชื่อนี้มีนัยถึงถึง "ความตายที่มาเยือน"[3] งูแบล็กแมมบา ใช้พิษในการหากินโดยใช้กัดเหยื่อให้ตาย แล้วจึงกลืนเข้าไปทั้งตัว ซึ่งได้แก่ กระต่าย, นก, ค้างคาว และสัตว์ฟันแทะ รวมถึงกบหรือสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำทั่วไป และยังกินงูด้วยกันเป็นอาหารได้อีกด้วย มีพฤติกรรมออกหากินในเวลากลางวัน พิษของงูแบล็กแมมบานั้นถือว่าร้ายแรงมาก ถูกจัดให้เป็นงูที่มีพิษอันตรายมากที่สุดติด 1 ใน 10 อันดับของโลก[4] ก่อนหน้าที่จะมีการพัฒนาเซรุ่มแก้พิษนั้น ผู้ที่โดนกัดจะถึงแก่ความตายทั้งหมด โดยการกัดครั้งหนึ่งจะปล่อยพิษออกมาประมาณ 100-250 มิลลิกรัม มีผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง ผู้ที่ถูกกัดจะเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจล้มเหลวในเวลาเพียง 20 นาที แต่โดยเฉลี่ยคือ 2-4 ชั่วโมง จากความล่าช้าของการรักษา งูแบล็กแมมบาสามารถที่จะฉกกัดได้อย่างว่องไว และสามารถขู่ แผ่แม่เบี้ย และชูหัวได้เหมือนกับงูเห่า (Naja spp.) หรืองูจงอาง (Ophiophagus hannah) ซึ่งอยู่ร่วมวงศ์กัน แม้จะไม่ใหญ่เท่า แต่ก็สามารถฉกและชูหัวได้สูงถึง 2 เมตร


ที่มา :https://th.m.wikipedia.org/wiki/งูแบล็กแมมบา

Share:

วันอาทิตย์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2561

ยอดมนุษย์ไฟฟ้า


Ma Xiangang ค้นพบพลังพิเศษของตัวเองด้วยความบังเอิญแบบที่ถ้าเป็นคนปกติคงจะตายไปแล้ว วันหนึ่ง โทรทัศน์ของ Xiangang เกิดพังขึ้นมา เขาเลยพยายามซ่อมกล่องฟิวส์และบังเอิญไปโดยสายไฟที่ยังมีไฟฟ้าเลี้ยงอยู่ เข้า แต่แทนที่เขาจะถูกช็อตไหม้เกรียมแบบคนทั่วๆ ไป เขากลับพบว่าเขาไม่มีความรู้สึกเจ็บเลยสักนิด ด้วยความสงสัย เขาเลยลองทดสอบ ด้วยการจับสายไฟดูอีกครั้ง ผลที่ได้ทำให้เขาประหลาดใจมาก เพราะนอกจากจะไม่ถูกไฟฟ้าช็อตแล้วเขายังไม่รู้สึกเจ็บ และไม่เกิดผลอะไรขึ้นทั้งนั้น สำหรับมนุษย์ทั่วไปแล้ว เราจะสามารถต้านทางกระแสไฟฟ้าได้ต่างกันเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับความหนาของผิว ความชื้นของผิว และการเปลี่ยนแปลงของสารเคมีในร่างกาย ในกรณีของ Xiangang พบว่าค่าต่างๆ ที่ช่วยในการต้านทานอยู่ในระดับสูงมาก ทำให้เขาสามารถต้านทานกระแสไฟฟ้าได้มากกว่าคนทั่วไป 7-8 เท่า อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า นอกจาก Xiangang แล้ว ยังมีคนอีกมากซึ่งมีความสามารถแบบเขาอยู่ แต่เจ้าตัวเองก็อาจจะไม่รู้เพราะไม่เคยได้ทดสอบ (แต่อย่าได้ทดสอบกันเองเลยนะคะ)
ที่มา :https://www.online-station
Share:

ฉลามกอปลิน[มันมีอยู่จริง?!?]



ปลาฉลามก็อบลิน หรือ ปลาฉลามปีศาจ :อังกฤษ: Goblin shark, Elfin shark :ชื่อวิทยาศาสตร์: Mitsukurina owstoni) ปลากระดูกอ่อนจำพวกปลาฉลามชนิดหนึ่ง

อีกหนึ่งปลาสายพันธุ์โบราณสมัย 124 – 112 ล้านปีก่อน ลักษณะเหมือนฉลามทั่วไป แต่ใบหน้าดันไปคล้ายกับสัตว์ประหลาดกอบลินในนิยายปรัมปราของชาวตะวันตก พบชุกชุมที่โตเกียวแคนยอน ซึ่งเป็นหุบผาลึกใต้ทะเลในพื้นที่อ่าวโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยปกติแล้วจะมีลำตัวและครีบสีขาว แต่เมื่อถูกจับขึ้นมาจากน้ำลำตัวจะเปลี่ยนไปเป็นสีแดงเหมือนเลือด ปลาฉลามกอบลินจัดได้ว่าเป็นปลาฉลามชนิดที่ว่ายน้ำได้แย่มาก และเชื่อว่าปลาฉลามกอบลินเมื่อถึงวัยเจริญพันธุ์จะขยายพันธุ์ในที่ๆ มีอาหารสำหรับเลี้ยงตัวอ่อนอุดมสมบูรณ์เพื่อที่ตัวอ่อนจะได้ไม่ต้องแย่งชิงอาหารกัน


ปลาฉลามก็อบลิน มีความยาวเต็มที่ได้ 3 หรือ 4 เมตร (10 และ 13 ฟุต) อาศัยอยู่ในเขตน้ำลึกได้มากกว่า มากกว่า 100 เมตร (330 ฟุต) ซึ่งเป็นที่ ๆ แสงส่องลงไปไม่ถึง พบชุกชุมที่โตเกียวแคนยอน ซึ่งเป็นหุบผาลึกใต้ทะเลในพื้นที่อ่าวโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยปกติแล้วจะมีลำตัวและครีบสีขาว แต่เมื่อถูกจับขึ้นมาจากน้ำลำตัวจะเปลี่ยนไปเป็นสีแดงเหมือนเลือด[6] ปลาฉลามก็อบลินมีลักษณะเด่น คือ บริเวณส่วนหัวด้านบนที่มีส่วนกระดูกที่ยื่นแหลมออกไปข้างหน้าเหนือกรามบน ในปากเต็มไปด้วยฟันที่แหลมคม ซึ่งส่วนหัวที่ยื่นยาวออกไปนั้น ด้านล่างประกอบไปด้วยอวัยวะเล็ก ๆ หลายร้อยอันที่ทำหน้าที่เหมือนเซนเซอร์ตรวจจับคลื่นไฟฟ้าของสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ที่จับได้แม้กระทั่งคลื่นไฟฟ้าอ่อนถึง 1 ในล้านโวลต์ เพื่ออาหารซึ่งได้แก่ ปู หรือสัตว์น้ำชนิดต่าง ๆ ที่หลบซ่อนตัวลงในพื้นโคลนใต้ทะเล
ปลาฉลามก็อบลิน ถูกค้นพบครั้งแรกในช่วงปี ค.ศ. 1873-76 จากการสำรวจของเรือเอชเอ็มเอส ชาเลนเจอร์ ที่สำรวจทะเลในพื้นที่ต่าง ๆ รวมถึงเก็บรวบรวมตัวอย่างของปลาฉลามชนิดต่าง ๆ อีกเป็นจำนวนมากอีกด้วย โดยปลาฉลามก็อบลินถูกค้นพบที่นอกชายฝั่งทะเลญี่ปุ่น แต่ก็ยังเป็นเวลาอีกหลายปีต่อมาจึงถูกอนุกรมวิธานทางวิทยาศาตร์

ที่มา : https://th.m.wikipedia.org/wiki/ปลาฉลามก็อบลิน
Share:

สัตว์ที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก 10 อันดับ

เริ่มที่อันดับ 10 Puffer Fish ปลาปักเป้า ปลาปักเป้า คือสัตว์มีพิษที่มีคนนิยมบริโภคมาก โดยเฉพาะในแถบประเทศญี่ปุ่น (ปลาปักเป้าภาษาญี่ปุ่นเรี...

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

ค้นหาบล็อกนี้

Blog Archive

Translate

Facebook

LAZADA

ตัดต่อสร้าง Bloggif

LAZADA